โอเล่ กุนนาร์ โซลชา สมควรได้รับเวลาต่อหรือไม่

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา สมควรได้รับเวลาต่อหรือไม่

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พบว่า พวกเขาต้องลงทุนอย่างหนักในยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ และไม่เพียงเพราะสัญญา 3 ปีที่มอบให้ อดีตดาวยิง “ปีศาจแดง” ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเท่านั้น

นี่คือสโมสรที่ปรับปรุงโครงการสร้างทีมใหม่ และสำหรับความผิดหวังที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ผ่านมา ซึ่งมาพร้อมกับการเริ่มต้นฤดูกาลที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 30 ปี ความชัดเจนของวัตถุประสงค์มีบางสิ่งบางอย่างให้ทุกคนยึดมั่นในความสำเร็จเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม แมนฯยูไนเต็ด ต้องเจอกับปีของการใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองสำหรับผู้เล่นที่ได้รับค่าจ้างมากเกินไป และไม่ได้มีความกระหายชัยชนะบนสนาม และ “ปีศาจแดง” ก็เปลี่ยนมุมมองเหล่านั้นด้วยการนำนักเตะสายเลือดใหม่อย่าง แฮรี่ แม็คไกวร์ กองหลังทีมชาติอังกฤษ, แดเนียล เจมส์ ปีกทีมชาติเวลส์ และ แอรอน วาน-บิสซาก้า แบ็คขาวดาวรุ่ง มาเสริมทัพ

ความจริงที่ว่าการเซ็นสัญญาในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมากับนักเตะใหม่ทั้ง 3 คนนั้น เพียงพอแล้วที่จะโน้มน้าวให้ เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานบริหาร แมนฯยูไนเต็ด เชื่อว่าสโมสรกำลังอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง มันเป็นจุดที่เขาเริ่มทำเงินได้อย่างรวดเร็วในเดือนที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน แมนฯยูไนเต็ด ยังไม่มีคนมารับหน้าที่ผู้อำนวยการกีฬาของสโมสร ซึ่งมาคอยจัดการเรื่องแนวทาง ความคิด เงินเดือน และปรัชญาของ “ปีศาจแดง” ปัญหาคือ วู้ดเวิร์ด จะต้องเจอกับปัญหาหลายอย่างของสโมสรด้วยตัวเองเพียงคนเดียว

แท้จริงแล้วหนึ่งในข้อโต้แย้งที่แข็งแกร่งที่สุดในการกำหนดปรัชญาของสโมสรในตอนแรกก็คือ มันทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของบุคลากร แต่มันยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แม้ว่าผู้จัดการทีมคนเก่าอย่าง เดวิด มอยส์, หลุยส์ ฟาน กัล และ โชเซ่ มูรินโญ่ เดินจากไป

หลังจากที่ แมนฯยูไนเต็ด อยู่บนความไม่มั่นคงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การวางมือของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือชาวสก็อตแลนด์ นั้น พวกเขาโหยหาคนเข้ามากอบกู้สโมสรมาอย่างยาวนาน มอยส์, ฟาน กัล และ มูรินโญ่ มันไม่สามารถทวงความยิ่งใหญ่กลับคืนมาสู่ถืนโอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้

แต่ข้อเสนอแนะใดๆที่ว่าสิ่งนี้เพียงอย่างเดียวคือเหตุผลที่ โซลชา ยังคงอยู่ในตำแหน่ง และหลังจากที่เขาพาทีมเก็บชัยชนะเพียง 2 จาก 13 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีกนั้น มันเป็นคำถามว่า โค้ชชาวนอร์เวย์ ยังคงได้รับเวลาต่อไปหรือไม่

โซลชา พูดถึงการสร้างวัฒนธรรม และมันเป็นความใฝ่ฝันที่คู่ควร ในความเป็นจริงมันเป็นสิ่งจำเป็น แต่หลักการเหล่านั้น ควรจะเป็นไปได้โดยไม่มีเขาคุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่จำเป็นต้องมี โซลชา เป็นผู้จัดการทีม เพื่อดำเนินนโยบายที่น่ายกย่องในการผลักดันผู้เล่นอายุน้อย และมีความกระหายเข้าสู่ทีม

ความรับผิดชอบหลักของ โซลชา คือ การจัดระเบียบทีมในสนาม และพัฒนาทรัพยากรที่มีในมือเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ แมนฯยูไนเต็ด ควรมีสไตล์การเล่นที่น่าดึงดูด และเป็นที่จดจำของแฟนบอล แต่โค้ชชาวนอร์เวย์ ยังไม่สามารถทำได้ และเขาดูเหมือนจะพบกับความยากลำบากในการโน้มน้าวให้เชื่อว่า เขาจะประสบความสำเร็จกับ “ปีศาจแดง”

ขณะเดียวกันเมื่อมองไปยังประสบการณ์ที่ผ่านมาของ โซลชา กับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ และ โมลด์ มันก็ควรพิจารณาความจริงที่ว่า ผลการแข่งขันที่ แมนฯยูไนเต็ด บุกป่าย นิวคาสเซิล 1-0 สนามเซนต์ เจมส์ ปาร์ค เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น ไม่เป็นที่พอใจของสาวก “เร้ด เดวิลส์” มันเป็นสถานการณ์ที่ผิดปกติสำหรับสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในเมืองผู้ดี

ความรับผิดชอบหลักของ โซลชา คือ การจัดระเบียบทีม

มันแทบจะไม่จำเป็นที่จะต้องชี้ให้เห็นว่า ข้อโต้แย้งของ แมนฯยูไนเต็ด ได้พยายามหาผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์ แต่แล้วก็มีข้อบกพร่อง และคนที่มีคุณสมบัติพร้อมเหล่านั้น กลับต้องดิ้นรนเพื่อทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อพิสูจน์ตัวเอง มันเป็นเรื่องที่งี่เง่าอย่างมาก

ทุกคนรู้ดีว่างานที่ แมนฯยูไนเต็ด นั้น จะต้องใช้เวลานั่นคือความคิดของบางคนที่มักจะอยู่ในกลุ่มที่ให้การสนับสนุนการคุมทีมของ โซลชา แต่มันเป็น โค้ชชาวนอร์เวย์ ที่ทำให้ตัวเองต้องเจอกับความกดดัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากความพ่ายแพ้ในเกมล่าสุดกับ นิวคาสเซิล

โซลชา กล่าวหลังเกมกับ นิวคาสเซิล ผ่าน “สกายสปอร์ต” สื่อกีฬาขั้นนำแดนผู้ดีว่า “เราได้รวมตัวกันและหารือเกี่ยวกับทิศทางที่เรากำลังจะไปต่อในอนาคต ถ้าคุณเดินออกไปในวันที่อากาศแจ่มใส คุณจะไม่เห็นอุปสรรค หรือปัญหาที่อยู่ตรงหน้า”

“มันอาจจะต้องใช้เวลานาน เพราะมันเป็นการเดินทางที่เราเพิ่งเริ่มต้นขึ้น และมันเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นไปในแนวทางเดียวกันที่ผมได้รับจากลูกทีม ตอนนี้ผมยังบอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ แต่เราจะไปถึงจุดนั้นให้ได้” นายใหญ่ “ปีศาจแดง” กล่าว

แน่นอนว่า โซลชา พูดถูกต้องที่จะชี้ให้เห็นว่างานนี้ต้องใช้เวลา ไม่มีใครสามารถสงสัยได้ ถึงเวลาที่จะประครองทีมที่อ่อนแอของเขาด้วยท่าทีที่ชาญฉลาดในตลาดนักเตะ และเวลาจะค่อยๆบอกว่าผู้เล่นหลายคนที่เขาไม่ต้องการนั้น จะถูกขายออกไป หรือบางคนอาจถูกปล่อยให้หมดสัญญา มันถึงเวลาสำหรับแข้งเยาวชนที่มีความสามารถอยู่แล้วเพื่อพัฒนาและปรับปรุงตัวเอง

แต่ถ้า แมนฯยูไนเต็ด เชื่อว่านี่เป็นเพียงเดิมพันที่รออยู่ พวกเขาจะเข้าใจผิดอย่างแน่นอน นี่เป็นกระบวนการเชิงรุก ซึ่งต้องมีสัญญาณของความคืบหน้าในสนามและในตลาดนักเตะ พวกเขาต้องการโค้ชที่สามารถพัฒนาผู้เล่นเหล่านี้ในระยะยาว นาฬิกาเดินผ่านไป แต่ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะชี้ให้เห็นว่าสิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นที่ทัพ “ปีศาจแดง”

การพัฒนาของ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ กองกลางดาวรุ่งชาวสก็อตแลนด์ ก้าวไปอย่างรวดเร็ว แต่ความก้าวหน้าของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวยิงชาวอังกฤษ นั้นกลับตกลงอย่างน่าใจหาย และในยุคของ โซลชา นั้น แรชฟอร์ด ยิงประตูไม่ได้มาหลายนัดแล้ว

หลังจากผ่านไปกว่า 9 เดือน ในยุคการคุมทีมถาวรของ โซลชา นั้น มันมีหลายอย่างที่ต้องได้รับการแก้ไข เห็นได้จากการที่ ดาบิด เด เคอา นายทวารทีมชาติสเปน ของ แมนฯยูไนเต็ด กล่าวว่า “ทุกอย่างผิดปกติ ผมคิดว่าหลายสิ่งหลายอย่างจำเป็นต้องปรับปรุง นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด และเป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุด นับตั้งแต่ผมย้ายมาอยู่ที่นี่”

ทุกอย่างอาจยังไม่จบสำหรับ โซลชา แต่ปัญหาของเขาจะไม่หายไป และการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ในเกมต่อไปที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด นั้น ผลการแข่งขันขึ้นอยู่กับหลายความคิดของผู้ชม แต่ด้วยฟอร์มการเล่นของ “ปีศาจแดง” ในระยะหลังนั้น มันไม่ใช่งานง่ายสำหรับพวกเขาอย่างแน่นอน

มีหลายคนเชื่อว่าการพ่ายแพ้ที่สร้างความเสียหายอีก 1-2 ครั้ง คงไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงที่ แมนฯยูไนเต็ด อีกครั้งแน่นอน เพราะตอนนี้ “ปีศาจแดง” ต้องการมากกว่าแท็คติคบนสนาม พวกเขาต้องการโค้ชที่สามารถเป็นผู้นำในระยะยาวได้ น่าเสียดายสำหรับ โซลชา ที่เขาแทบไม่มีคุณสมบัตินั้นเลย

น่าเสียดายสำหรับ โซลชา ที่เขาแทบไม่มีคุณสมบัติ